หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีสาวออกมาโพสต์ภาพแฉ การทำงานของบริษัทขนส่งพัสดุเอกชนเจ้าดัง หลังเธอส่งสินค้าให้ลูกค้า แต่นานผิดปกติ จึงเดินทางไปเอาสินค้าด้วยตัวเองที่คลังสินค้าเพื่อไปส่งให้ลูกค้าอีกที กลับพบว่าสินค้ากองเกลื่อนค้างคลัง เพราะพนักงานแห่ลาออกยกแผง
อ่านข่าวเพิ่มเติม: สาวโพสต์แฉ ขนส่งเจ้าดัง พนง. แห่ลาออก ทิ้งพัสดุกองค้างคลัง
จนกระทั่ง เฟชบุ๊กเพจ Kerry Express Thailand โพสต์ข้อความระบุว่า แถลงการณ์ บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เรื่อง การจัดส่งพัสดุในช่วงประกาศ พรก.ฉุกเฉินเนื่องมาจากการประกาศพรก.ฉุกเฉินทำให้ปริมาณความต้องการของลูกค้าในการส่งพัสดุที่เพิ่มมากขึ้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม: Kerry แถลงแล้ว หลังพนง.แห่ลาออก ทิ้งพัสดุค้างเกลื่อนเต็มคลัง
โดยจำนวนการจัดส่งพัสดุของบริษัทฯ ในช่วงนี้ ได้เพิ่มสูงขึ้นกว่าเท่าตัวจากการจัดส่งในช่วงเวลาปกติ จึงส่งผลกระทบโดยตรงต่อการ จัดลำดับเส้นทางการจัดส่งพัสดุของเรา อีกทั้งกับการดำเนินงานที่ต้องคำนึงถึงมาตรการการควบคุมการคมนาคมในแต่ละพื้นที่ ส่งผลให้รถส่งสินค้าต้องใช้เวลานานกว่าปกติในการจัดส่งสินค้าไปยังปลายทาง
ล่าสุด วันที่ 5 เม.ย. ผู้เฟซบุ๊กชื่อ Jeerachai Lerdpasertkul โพสต์ระบุว่า เห็นใจพวกเราด้วย น่าจะเป็นคำที่พนักงานเคอรี่ทั่วประเทศ อยากจะบอกกับทุกคน เพราะหลายวันมานี้ยอดส่งทุกสาขาทะลุเป้า มีคนหันมาส่งของกันเยอะมาก
เนื่องจากธุรกิจออนไลน์นั้นได้รับความนิยมในเหตุการณ์นี้ จนทำให้พัสดุล่าช้า 2-3 วัน จากเมื่อก่อนส่งวันนี้พรุ่งนี้ถึง
วันนี้ผมได้ยินน้องๆรับสายไม่หยุดเลย ลูกค้าโทรมาทวงสินค้าว่าทำไมไม่ถึง ทำไมโน้น ทำไมนี่ น้องๆก็ตอบไปตามสเต็ป ว่าช่วงนี้คนมาส่งเยอะ และมีเหตุการณ์ไม่ปกติจึงทำให้ล่าช้า
ผมเห็นสีหน้าน้องๆ ก็รู้เลยว่าโดนด่าจากปลายสาย แต่ทำไงได้ ก็พนักงานนิเนอะ ก็ขอโทษด้วยเสียงอ่อยๆไป พอวางสายก็ต้องมานั่งคีย์งานต่อ ด้วยใจที่หม่นเต็มทน สักพักก็จะมีคนโทรมาอีก เรื่องเดิมๆ วนแบบนี้ทั้งวัน
เหมือนจะจบที่เท่านี้ แต่ไม่เลยจ้า หน้าร้านก็มาไม่ขาดสาย บางคนก็โวยวายเรื่องพัสดุช้า บางคนก็จิกสารพัดเรื่อง บางคนก็เรื่องมากหลายสิ่ง บางคนก็มาอย่างกะเป็นเจ้าชีวิต ถึงคนที่เคยไปส่งแล้วยังไม่รู้นะครับ จะบอกอะไรให้
น้องๆเขาไม่ได้มีหน้าที่ยกของ ที่น้องๆเขาทำนั้นคือน้ำใจที่มีให้ “ไม่ใช่หน้าที่” เพราะฉะนั้นมีปัญญาแบกมาจากบ้าน ก็แบกเข้าร้านมาด้วย บางครั้งลูกค้าไม่มีน้องๆ ก็อาจจะมาช่วย แต่ถ้าหน้าร้านคนเยอะก็ให้น้องเขาทำหน้าที่ตัวเองก่อน
น้องๆ เขาไม่ได้เป็น ขี้ ข้ า แค่แพคกล่อง เอาเทปไปซีนอะ เด็ก ป.4 ยังทำเป็นเลย ไม่ได้ยากอะไร ไม่ต้องเรียก จิ ก ใช้อะไรขนาดนั้น หัดทำเถอะ น้องๆ เขาจะได้ไปทำส่วนที่สำคัญกว่า
น้องๆ เขาไม่ได้เป็นคนส่งของที่ขี่มอไซหรือขับรถกระบะอะไรพวกนั้น เขาเป็นพนักงานรับสินค้าคีย์ข้อมูลเข้าระบบ ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ส่วนอื่นไป ไม่ต้องมาจี้ถามอะไรเยอะ เพราะส่วนใหญ่มาด้วยอารมณ์ทั้งนั้น จะเอาคำตอบเดียวนี้ๆ โน้นอยากรู้ละเอียดๆโทร 1217 จะไว และง่ายกว่า ไม่ต้องมาถึงสาขา
และเรื่องที่น่าเห็นใจที่สุดในสายตาผม คือการป้องกันโควิด น้องๆ ทุกคนต้องเสี่ยง ตลอดตั้งแต่เข้างาน เจอคนวันละหลายร้อยคน โดยมารตการที่เพิ่งออกมาเมื่อ 2-3 วันก่อน ว่าให้ไปแพคหน้าร้าน และเอาสติ้กเกอร์มาแปะพื้นให้ห่าง 2 เมตร
สำหรับสาขาที่คนน้อยๆคงไม่ใช่ปัญหาอะไร แต่สำหรับสาขาที่คนเยอะ บอกเลยว่า ใช้ไม่ได้ผลจริง ด้วยหลายปัจจัย (ภาพในเม้น) ทีนี้แล้วยังไงนะหรอ น้องๆพนักงานไงที่เสี่ยงเต็มๆ คือ ”คนคิดแม่งไม่ได้มาทำไง ” คนที่ทำคิดได้แต่ไม่สามารถแก้ไขหน้างานได้ไง เพราะมันเป็นกฏ เพราะเราเป็นลูกจ้าง
” กูไม่ออก กูออกแล้วจะเอาอะไรแดก ” คำนี้จากลัดดาแลนด์ก็ลอยมาเลยจ้า ใช่ครับ น้องๆก็ยังคงต้องทำต่อไป คงไม่มีน้องๆเคอรี่คนไหนกล้าเขียนแบบนี้ เพราะยังคงรักในอาชีพตัวเอง น้องๆทุกคนทำงานกันอย่างเต็มที่
ในขณะที่ผมขอให้น้องเขาถ่ายรูปให้ น้องเขาควรจะต้องกลับบ้านไปอยู่กับลูก กับครอบครัวแล้ว แต่ยังต้องมานั่งคีย์ข้อมูล อีกเป็นร้อยเจ้าให้เสร็จให้เร็วที่สุด เพราะ 4 ทุ่มนี้จะเคอร์ฟิวแล้ว บางวันทำงานกันเกือบจะ 12ชั่วโมง ต้องช็อตขนาดไหนอะ แต่ก็นั้นแหละ ออกไปแล้วจะเอาอะไรกิน
เห้อ พรุ่งนี้ก็มาเสี่ยงกันใหม่ โควิดก็กลัวแหละ แต่ความจนก็น่ากลัวเช่นกัน พี่เป็นกำลังใจให้น้องๆทุกคนเลยนะครับ และเข้าใจกับเหตุการณ์ตอนนี้ พี่คิดว่าพี่ส่งเยอะที่สุดแล้วของสาขานี้
พี่จะแจ้งลูกค้าของพี่เอง ว่าพัสดุจะถึงช้า2-3วัน และจะให้ตัดรอบทันที ที่ถึงเวลา คงจะช่วยลดภาระน้องๆไปได้เยอะ สู้ๆนะครับ
โพสต์ดังกล่าว
ที่มา: Jeerachai Lerdpasertkul