เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 15 พ.ค. ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 หรือ ศบค. ทำเนียบรัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุม ศบค.ชุดใหญ่
เปิดเผยว่า ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 หรือ ศบค.ชุดใหญ่ ที่มี “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะผอ.ศบค. เป็นประธาน
ได้มีมติเห็นชอบให้ขยับเวลาของเคอร์ฟิวไปเป็น 23.00-04.00 น. (จากเดิม 22.00-04.00 น. ) โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค.
นอกจากนี้ ที่ประชุม ศบค. ยังมีมติอนุญาตให้ห้างสรรพสินค้ากลับมาเปิดให้บริการได้อีกครั้ง แต่จะต้องมีมาตรการป้องกันความเสี่ยง โดยทุกแห่งจะต้องเปิด-ปิดพร้อมกัน เวลา 10.00-20.00 น. เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค. นี้เช่นเดียวกัน
การคลายล็อก เฟส 2
สำหรับกิจการ-กิจกรรมที่จะผ่อนคลายในระยะที่ 2 จำนวน 3 กลุ่มกิจการ-กิจกรรม 10 ธุรกิจ ดังนี้ กลุ่มที่ 1 กลุ่มกิจการ/กิจกรรมด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตประจำวัน ได้แก่
กลุ่ม ก.การจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มในภัตตาคาร สวนอาหาร ศูนย์อาหาร โรงอาหาร ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม ขนมหวานและไอศกรีม ในอาคารสำนักงาน
กลุ่ม ข.ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ยกเว้นโรงภาพยนตร์ ฟิตเนส โบว์ลิ่ง สวนสนุก สวนน้ำ ศูนย์ประชุม ศูนย์พระเครื่อง พระบูชา สนามพระเครื่อง
กลุ่ม ค.ร้านค้าปลีก ร้านค้าส่งอื่น ๆ กลุ่ม ง.ร้านเสริมสวย (ย้อมผม ตัดผม หรือกิจกรรมอื่นๆ บริการไม่เกิน 2 ชั่วโมง) และร้านทำเล็บ
กลุ่มที่ 2 กิจกรรมด้านออกกำลังกายหรือการดูแลสุขภาพ ได้แก่ กลุ่ม ก.คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม สถานเสริมความงาม ควบคุมน้ำหนัก
กลุ่ม ข. สนามกีฬาเฉพาะกีฬาประเภทกลางแจ้ง และตามกติกาสากลเล่นเป็นทีม แต่ไม่มีผู้ชม กลุ่ม ค.สวนดอกไม้ สวนพฤกษศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ แกเลอรี่ ห้องสมุดสาธารณะ (เข้าเป็นรายคน) กลุ่ม ค.สถานประกอบการนวดแผนไทย (เฉพาะนวดเท้า)
กลุ่มที่ 3 กลุ่มอื่น ๆ ได้แก่ การประชุม ณ สถานที่ภายในหรือภายนอกองค์กร ลักษณะการบรรยายร่วมกับวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ จำกัดจำนวนคนตามพื้นที่ ทีมถ่ายทำรายการโทรทัศน์ โฆษณา ถ่ายแบบ ทำคลิป จำนวนไม่เกิน 5 คน
ที่มา: Khaosod