จากกรณี ดร.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการจ่ายเงินเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 33 ว่า ครม.อนุมัติเงินชดเชยรายได้ แก่ลูกจ้างของสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งยังไม่ได้รับการช่วยเหลือเยียวยาฯ ของกระทรวงแรงงาน
โดยกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับความช่วยเหลือ คือ ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ของกองทุนประกันสังคม ที่เป็นลูกจ้างของสถานประกอบการที่ต้องตกงานหรือถูกเลิกจ้าง และไม่ได้รับเงินทดแทนจากกองทุนประกันสังคมกรณีว่างงาน เนื่องจากจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนฯ ไม่ครบ 6 เดือนตามเงื่อนไข
สำหรับผู้ประกันตนที่ได้รับเงินชดเชยครั้งนี้ มีจำนวนทั้งสิ้น 59,776 คน ซึ่งสำนักงานประกันสังคม จะดำเนินการจ่ายเงินเยียวยา 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน (มิ.ย. – ส.ค. 63) รวมเป็นเงิน 15,000 บาท โดยจ่ายเพียงครั้งเดียว
นอกจากนี้ยังอนุมัติให้ใช้เงินกู้ในการฟื้นฟูผลกระทบจากโควิด 19 เพื่อส่งเสริมการจ้างงาน ใน 3 โครงการ โดยโครงการแรก เป็นโครงการอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุในท้องถิ่น ผ่านกระทรวงมหาดไทย วงเงินไม่เกิน 1,080 ล้านบาท ระยะจ้างงาน 2 เดือน โดยได้รับการฝึกอบรมเพื่อให้ดูแลผู้สูงอายุที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 ถึงกันยายน 2564
โครงการที่ 2 โครงการพัฒนาตำบลแบบบูรณาการ วงเงินไม่เกิน 2,701 ล้านบาท จ้างผู้จบปริญญาตรีในการเก็บข้อมูลระดับท้องถิ่น เพื่อรวบรวมให้ภาครัฐจัดทำแผนงานต่อไป โดยมีอัตราเปิดรับทั้งประเทศ 14,510 คน หรือตำบลละ 2 คน
โครงการที่ 3 โครงการเฝ้าระวังสร้างแนวกันไฟ วงเงินไม่เกิน 247 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมให้เกิดการจ้างงาน 9,137 คน โดยผู้เข้ารับอัตราขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน และลดความเสี่ยงในการเกิดไฟป่า
ที่มา: สำนักข่าว INN