เมื่อวันที่ 14 ก.ย. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล และ นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋น พร้อมด้วยนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความเดินทางมาศาลเพื่อ ยื่นฟ้องนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา โดยมีนายจีระพันธ์ เพชรขาว หรือหมอปลาเดินทางมาให้กำลังใจ
อ่านข่าวเพิ่มเติม: ลุงพล-ป้าแต๋น เอาจริง ควงทนายตั้ม ฟ้อง อัจฉริยะ
ทั้งนี้การยื่นฟ้องดังกล่าวมาจากกรณีที่ นายอัจฉริยะ ไลฟ์เฟซบุ๊ก และมีการกล่าวหาเชิงประจานเรื่องหนี้ ธ.ก.ส. โดยมีการนำสำนวนคดีบางส่วนมาพูด ทำให้เกิดผลเสียต่อลุงพลและป้าแต๋น และมีการหมิ่นเหยียดหยามพาดพิงถึงคดีน้องชมพู่ อายุ 3 ปี สูญหายจากบ้านพัก ที่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร จนเป็นข่าวดังในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
ลุงพล เปิดเผยว่า การกระทำของนายอัจฉริยะทำให้ตนเองเสื่อมเสียชื่อเสียง และทำให้สังคมเกิดความเข้าใจผิด โดยการฟ้องครั้งนี้ไม่มีการเรียกเงินค่าเสียหายแต่อย่างใด แต่อยากให้เป็นบทเรียน ไม่ให้นำเรื่องราวของผู้อื่นมาทำให้เกิดความเสื่อมเสีย แต่หากนายอัจฉริยะขอโทษผ่านสื่อมวลชน ตนก็จะไม่ติดใจเอาความ จะถอนฟ้องให้
ในขณะเดียวกันทางด้าน ข่าวสด รายงานว่า นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ถึงกรณีที่ นายไชย์พล หรือ ลุงพล ยื่นฟ้องศาลแล้วว่า รู้สึกเฉยๆ กับการที่ทั้งสองคนจะไปฟ้องตนเอง แต่มองว่าทั้งลุงพลและป้าแต๋นตกเป็นเครื่องมือของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอยู่หรือไม่ และไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ลุงพล ป้าแต๋นจะได้พบกับทนายษิทรา ต้องมีคนหนุนหลังให้
โดยตัวเองพร้อมจะต่อสู้ในชั้นศาลอย่างเต็มที่ เพราะยืนยันว่าการที่ได้ไลฟ์ในเพจเฟซบุ๊กของตัวเอง เรื่องหนี้สินของลุงพลป้าแต๋น ก็มีหลักฐานซึ่งทั้ง 2 คนก็เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อไว้ก่อนที่จะดัง และตลอดการไลฟ์ก็ไม่ได้บอกว่า ลุงพลเป็นผู้ต้องหา แต่เขาเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีของน้องชมพู่ และอยากเตือนลุงพลป้าแต๋นว่า ควรทำมาหากินเองได้แล้ว เพราะถ้าไม่มีชื่อเสียงก็อยู่ได้ไม่นาน
“ตอนนี้ถ้ามีโอกาสเก็บเงินเก็บทองก็รีบเก็บเอาไว้สู้คดีกันในชั้นศาลดีกว่า เพราะคดีความเมื่อขึ้นศาลแล้วไม่ใช่สู้กันวันสองวัน และถ้าให้ผมไปขอโทษลุงพลแล้วลุงพลจะให้อภัย คอนเฟิร์ม 100% ว่าจะไม่ขอโทษแน่นอน เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด การพูดทุกอย่างมีหลักฐานแน่นอน”