ก๋วยเตี๋ยวชามละ 1 บาท

เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2563 ที่วัดหนองกระทุ่ม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม มีประชาชนเดินทางท่องเที่ยว พักผ่อน ทำบุญในวันหยุดเป็นจำนวนมาก

และไม่พลาดที่จะแห่ชิม ก๋วยเตี๋ยว ชามละ 1 บาท ราคาย้อนยุค 40-50 ปี ที่ตลาดอิ่มบุญ หลากหลายเมนู มีทั้ง ก๋วยเตี๋ยวชามละ 1 บาท ก๋วยเตี๋ยวชามยักษ์ราคา 149 บาท

พร้อมลูกชิ้นยักษ์หนักเกือบครึ่งกิโล และลูกชินลูกเล็กอีกเกือบครึ่งกิโล พร้อมหมูสับอีกเกือบครึ่งกิโล พริกเผาและถั่ว เส้นหมี่ขาว-หมี่หยก หมี่เหลือง ทาน ได้ 10 คน และกะเพราถาดในราคา 79 บาททานได้หลายคน

นายอำนวย เกิดฤทธิ์ อายุ 49 ปี พิธีกรและกรรมการ วัดหนองกระทุ่ม ต.หนองกระทุ่ม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ได้เชิญชวน มาชิมก๋วยเตี๋ยวชามละ 1 บาท ที่วัดหนองกระทุ่ม

ได้เล่าความเป็นมาของก๋วยเตี๋ยวชามละ 1 บาทช่วงปีใหม่ที่จะมีโควิด วัดหนองกระทุ่มได้เปิดเป็นโรงทานให้ทานก๋วยเตี๋ยวฟรีและมาร่วมทำบุญมีประชาชนมามากมายและได้มีครอบครัว 1 มาจาก กทม.พาแม่มาทำบุญที่วัดหนองกระทุ่ม ลูกๆ ก็ทานก๋วยเตี๋ยวในวัดกันแต่ผู้เป็นแม่ไม่กล้าทานก๋วยเตี๋ยวลูกๆ

จึงได้ถามว่าแม่ทำไมไม่กินก๋วยเตี๋ยวชามละ 1 บาท ทางด้านแม่บอกว่าไม่ทานหรอกให้เป็นโรงทานทานฟรีไม่กล้าทานกลัวเป็นหนี้สงฆ์กลัวเป็นหนี้วัดและทางคณะกรรมการวัดหนองกระทุ่มทราบจึงได้นำเรื่องนี้ไปบอกหลวงปู่เจ้าอาวาสวัดหนองกระทุ่ม(หลวงปู่ปั่น) กวิทสโร อายุ 90 พรรษา

ทาง หลวงปู่ปั่น ทราบเรื่องจึงได้บอกกรรมการวัดมากเอาอย่างนี้ละกันถ้ากลัวเป็นบาปเป็นหนี้สังฆ์ก็ให้ตั้งราคาก๋วยเตี๋ยวเบื้องต้นในราคาชามละ 1 บาทจะได้ย้อนยุคไปเมื่อ 50 ปีที่ผ่านมาจะได้รู้คุณค่าของเงิน 1 บาทสมัยนั้นยังใช้ประโยชน์ได้ที่วัดหนองกระทุ่มได้

จากนั้นๆ ได้ตั้งราคาก๋วยเตี๋ยวเอาไว้ชามละ 1 บาทตั้งแต่นั้นมาพอทำก๋วยเตี๋ยวชามละ 1 บาทมาแล้วนั้นคนก็เริ่มมามากขึ้นและประชาชนที่มาทานก๋วยเตี๋ยวได้เช็คอินโพสต์ลงโซเชียลและเป็นที่ทราบกันมากขึ้น

ทางกรรมการวัดจึงได้คิดและปรับเปลี่ยนรายการอาหารเมนูหลากหลายขึ้นเป็นก๋วยเตี๋ยวหม้อละ 30 บาททานได้ 3-4 คนทำไปได้ระยะหนึ่งก้อนคิดเมนูเพิ่มเป็นก๋วยเตี๋ยวชามยักษ์ชามละ 149 บาท ทานได้ 10 คน

นอกจากนี้ ทางวัดยังได้คิดหาเพิ่มเมนูขึ้นมาอีกเป็นทำผัดกะเพรา กระทะชามละ 30 บาทและมีผัดกะเพราถาดยักษ์ราคา 79 บาท ให้ญาติโยมที่มาร่วมทำบุญ ทางด้านแม่ครัวที่มาทำอาหารก็เป็นชาวบ้านในพื้นที่มีจิตอาสามาช่วยวัดหนองกระทุ่มเป็นแม่ครัวทำ

ทาง หลวงปู่ปั่น จึงมีความคิดว่าญาติโยมนั้นเสาร์-อาทิตย์ ไม่ได้ทำงานมาช่วยงานที่วัด และให้ลูกหลานมาทำของที่วัดโดยจัดให้มีเป็นซุ้มแต่ละร้าน(แม่มากวาดวัด-มาช่วยงานวัดกันจึงได้ตั้งตลาดของฝากวัดหนองกระทุ่มให้ชาวบ้านในพื้นที่นำพืชผักสวนครัวที่ปลูกเอาไว้กินให้นำมาวางขาย

มี กะเพราเปลอดสาร พิ ษ พืชผักสวนครัว อยู่อย่างแบบพอเพียงซึ่ง บางคนพูดมะเขือเทศ 5 ต้นปลูกมะละกอ. ปลูกกล้วยน้ำว้า ปลูกกล้วยหอม-ปลูกฟักทอง ปลูกบวบ-พริก มะนาว มะเขือพวง ได้เก็บมาขายที่ตลาดของฝากวัดหนองกระทุ่ม ณ.ตอนมีด้วยกันเกือบ 20 ร้านแล้วทำให้ชาวบ้าน มีรายได้จากการขายผักผลไม้ในชุมชนที่ปลูกเอง ขายเอง

ในการเดินทางมาทางวัดหนองกระทุ่มถนนสาย กำแพงแสน-พนมทวน จ.กาญจนบุรี วัดหนองกระทุ่มเป็นสถานที่ลานบุญ-ตลาดอิ่มบุญ ตลาดของฝาก ที่ประชาชน มาทำบุญ ได้ทุกวันไม่มีวันหยุดญาติโยมได้มาทำบุญ

นำเงินที่ได้รับจากการทำบุญไปซ่อมแซมพระอุโบสถบูรณะปติสังขารพระอุโบสถหลังเก่าที่ชำรุด ทรุดโทรม มีอายุเกือบ 50 ปีต้องใช้งบประมาณในการซ่อมบำรุง เกือบ 10 ล้านบาท

ญาติโยมที่มาทานก๋วยเตี๋ยวบ้างมาทำบุญบ้างรายได้หักค่าใช้จ่ายจากอุปกรณ์ขายของที่เหลือจะนำไปเป็นค่าอุปกรณ์ ค่าวันดุและค่าช่างในการซ่อมบำรุงพระอุโบสถหลังเก่าของวัดหนองกระทุ่ม

ซึ่งบางคนมาทำบุญได้ถวายเงินทำบุญเป็นเจ้าภาพโรงทานบางคนมาเป็นครอบครัวถวายเบินมา 1,000 บาท ทำบุญซื้อหมูทำก๋วยเตี๋ยวและซื้อเส้นก๋วยเตี๋ยวมาถวายให้กับโรงทานบางรายก็ทำบุญ 200-500 บาทตากำลังศรัทธา

ในการทำบุญให้โรงทานเพื่อเป็นทุนทำก๋วยเตี๋ยวให้ญาติโยมได้ทาน และคนที่มาทำบุญได้ทานก๋วยเตี๋ยวราคาถูกชามละ 1 บาท ที่ตลาดอิ่มบุญ จะเปิด เสาร์-อาทิตย์

ในส่วนผู้แสวบุญมาทำบุญได้ที่วัดหนองกระทุ่ม เป็นสถานลานบุญ เปิดให้ประชาชนมาร่วมทำบุญ มากราบพระพุทธมงคลนิมิตร พระพุทธรูป ที่ประชาชนคนในพื้นที่นับถือกันมานับร้อยปี