เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่สร้างรอยยิ้ม และอบอุ่นใจให้กับชาวเน็ตอย่างมากมาย เพราะผู้บาดเจ็บคือ “ลูกเจี๊ยบตัวน้อย” ส่วนผู้ก่อเหตุที่ไม่ชนแล้วหนีคนนี้ คือเด็กชายตัวน้อย อายุแค่ 6 ขวบ
เมื่อเว็บไซต์ต่างประเทศได้รายงานว่า ที่เมืองไซราง รัฐมิโซรัม ประเทศอินเดีย มีเด็กชายวัย 6 ขวบมีชื่อว่า ดิเรก ลาลจันหิมะ โดยในวันเกิดเหตุ ดิเรกขี่รถจักรยานเล่นอยู่แถวบ้าน
แล้วเผลอไปชนลูกเจี๊ยบตัวหนึ่งของเพื่อนบ้านเข้าเต็มๆ หนุ่มน้อยตกใจมาก รีบอุ้มลูกเจี๊ยบที่แน่นิ่งไม่ไหวติงวิ่งเข้าบ้านไปให้พ่อแม่ดู และเอ่ยปากขอให้พ่อแม่พามันไปหาหมอ
เมื่อ ธิราช ผู้เป็นพ่อ ได้ยินแบบนั้น ก็บอกให้ลูกชายพาไปเอง ซึ่งเขาก็คงไม่คิดว่าลูกจะทำจริง ๆ อย่างที่ตัวเองบอก
ดิเรกวิ่งออกจากบ้านไปกระโดดขึ้นสองล้อคู่ใจทันที และเขาก็ไม่ลืมคว้าเงินไปเป็นค่ารักษาด้วย เขาขี่จักรยานพาลูกเจี๊ยบที่ตายแล้วไปโรงพยาบาลใกล้บ้านด้วยน้ำตานองหน้า ขอให้หมอช่วยรักษาลูกเจี๊ยบน้อย แต่เขาก็กลับบ้านด้วยความผิดหวัง..
เด็กชายเล่าให้พ่อแม่ฟังว่า หมอที่โรงพยาบาลได้แต่ยกโทรศัพท์มือถือมาถ่ายรูปเขาเอาไว้ และไม่ยอมช่วยลูกเจี๊ยบเลย แต่เขาก็ให้สัญญากับพ่อว่าจะต้องช่วยลูกเจี๊ยบตัวนี้ให้ได้ และตั้งใจจะพามันกลับไปให้หมอช่วยดูอีกครั้ง
พ่อแม่จึงต้องนั่งอธิบายให้ลูกชายฟังว่าคุณหมอไม่สามารถช่วยเหลือลูกเจี๊ยบตัวนี้ได้ เพราะมันตาEแล้ว ด้วยเหตุนี้ ทางเดียวที่คงสามารถทำได้คือทำศwให้ลูกเจี๊ยบด้วยการฝังกลบลงในดิน เด็กชายเ ศ ร้ า มาก แต่ก็เข้าใจและยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น โดย ธิราช กล่าวว่า ลูกชายของเขาเป็นเด็กดี และมักทำในสิ่งที่แตกต่างจากคนอื่นๆ เสมอ
ภาพของเด็กชายไร้เดียงสายืนอยู่ในโรงพยาบาล มือซ้ายกำซากลูกเจี๊ยบตาย และมือขวาถือธนบัตร 10 รูปี ซึ่งเทียบเป็นเงินไทยก็ประมาณ 5 บาท ได้ถูกโพสต์แชร์ลงบนสังคมออนไลน์ และกลายเป็นโพสต์ที่คนแชร์กันไปทั่ว
ชาวเน็ตต่างก็เอ็นดูความน่ารักของดิเรก และประทับใจจิตใจของเขา ที่ทำสัตว์บาดเจ็บแล้วไม่หนี แสดงความรับผิดชอบในความผิดและพยายามช่วยเหลือมันอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมอย่างที่สุดเลยจริงๆ
ทางโรงเรียนอนุบาลของดิเรกก็ได้ยินข่าวของเขาเช่นกัน และล่าสุดเมื่อวันที่ 4 เมษายน ที่ผ่านมา ทางโรงเรียนได้มอบประกาศนียบัตรให้กับดิเรก เพื่อเป็นรางวัลตอบแทนความดีที่เขาพยายามช่วยเหลือลูกเจี๊ยบตัวน้อยที่บาดเจ็บเพราะตัวเอง
แม้ว่าสุดท้ายลูกเจี๊ยบจะตาEจากไป แต่ความดีในหัวใจเด็กชายคนนี้เป็นสิ่งที่สมควรได้รับการชื่นชม
ดิเรกก็ยืนถือประกาศนียบัตรดังกล่าวด้วยรอยยิ้ม เชื่อว่าเขาคงดีใจที่ได้ประกาศนียบัตรนี้ และเหนือสิ่งอื่นใดก็คือ พ่อแม่ของเขาคงภาคภูมิใจในลูกชายคนนี้อย่างแน่นอน
โพสต์ดังกล่าว
ที่มา: Sanga Says, Kapook